ถ้าพูดถึงคลังเก็บไฟล์ข้อมูลต่างๆ แบบดิจิตอล แต่ก่อนจะนึกถึง Hard Disk ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์หรือแบบพกพา ปัจจุบันนี้มีการพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้มีการใช้เป็นแบบ Cloud Storage หรือที่เรียกว่าการเก็บข้อมูลผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้การใช้งานง่ายขึ้นเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต หมดปัญหาการลืมพก Hard Disk ในการใช้งาน หลายยี่ห้อที่มีอยู่ให้บริการตอนนี้เช่น Google Drive, One Drive, iCloud, Dropbox ฯลฯ เป็นต้น บทความนี้เรามารู้จักแต่ละตัวกันว่าเป็นแบบไหนบ้าง มีพื้นที่ใช้ฟรีเท่าไหร่ มาดูกัน!
อันดับแรกเรามารู้จัก Cloud Storage คืออะไร เป็นการเก็บข้อมูลบนเครื่อง Server และอยู่ในโลกออนไลน์ที่เราเรียกว่า Cloud ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการเรียกดูและใช้งานข้อมูลบน Cloud ซึ่งอาจจะเก็บข้อมูลไว้ใน server หลาย ๆ ตัว โดยกระจายข้อมูลออกเป็นเครื่องละเล็กละน้อย ผู้ให้บริการคลาวด์ (Host) จะดูแลเป็นคนจัดการบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถลดต้นทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้ (อ้างอิง : https://www.nipa.cloud/blog/cloud-storage)
1. Google Drive
Google Drive บริการของ Google เป็น Cloud Storage อันดับแรกๆ ที่มีคนรู้จักและเข้ามาใช้เป็นจำนวนมาก ทั้งเรื่องการจัดเก็บ การแชร์ และการทำงานร่วมกันในไฟล์และโฟลเดอร์ได้จากอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ และสามารถทำงานร่วมกับหลายแอปของ Google ได้ อย่างเช่น เอกสาร, ชีต และ สไลด์ เป็นแอปสำหรับการทำงานร่วมกันที่ดำเนินการบนระบบคลาวด์ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเป็นทีมสามารถสร้างเนื้อหาและทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล (ไม่มีค่าใช้จ่าย) มีพื้นที่เก็บข้อมูลจำนวน 15 GB ต่อผู้ใช้ (อ้างอิง : https://www.google.com/intl/th_th/drive/)
2. OneDrive
OneDrive เป็นบริการ Microsoft Cloud ที่สามารถเชื่อมกับไฟล์ทั้งหมดในตระกูล Microsoft Office ซึ่งช่วยให้จัดเก็บและปกป้องไฟล์ แชร์กับผู้อื่น และเข้าถึงไฟล์เหล่านั้นได้จากทุกที่บนอุปกรณ์ทั้งหมด เมื่อใช้บัญชี OneDrive ที่บริษัทหรือโรงเรียนให้มา บางครั้งเราจะเรียกว่า “OneDrive สำหรับที่ทำงานหรือโรงเรียน ” ซึ่งเคยถูกเรียกว่า “OneDrive for Business” ดังนั้นอาจยังคงเห็นชื่อเรียกสถานที่นั้นว่า “OneDrive for Business” สามารถทำงานได้มากขึ้นด้วย Microsoft 365 สร้างงานด้วย Word และ Excel เวอร์ชันล่าสุด และแอป Office อื่นๆ มีพื้นทีเก็บข้อมูลแบบฟรีจำนวน 5 GB (อ้างอิง : https://www.microsoft.com/th-th/microsoft-365/onedrive/online-cloud-storage)
3. Dropbox
Dropbox เป็น Cloud Storage ชนิดหนึ่งคล้ายๆ กับตัว Cloud ตัวอื่น ช่วยให้เข้าถึงไฟล์จากอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และแท็บเล็ตได้อย่างง่ายดายและฟรี สามารถสำรองไฟล์ได้อย่างปลอดภัย และสามารถแบ่งปันการทำงานร่วมกันในไฟล์กับผู้อื่นได้ การลงทะเบียนใช้งานก็สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากถึง 3 เครื่อง ต่อผู้ใช้ มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่แบบฟรีจำนวน 2 GB (อ้างอิง : https://www.dropbox.com/basic)
4. iCloud
iCloud เป็นบริการจาก Apple ที่จัดเก็บรูปภาพ, ไฟล์, โน้ต, รหัสผ่าน และข้อมูลอื่นๆ อย่างปลอดภัยไว้ในคลาวด์ และอัปเดตอยู่เสมอบนอุปกรณ์ทุกเครื่องโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ iCloud ยังทำให้การแชร์รูปภาพ, ไฟล์, โน้ต และข้อมูลอื่นๆ กับเพื่อนและครอบครัวง่ายขึ้น สามารถสำรองข้อมูลบน iPhone, iPad หรือ iPod touch ใช้ iCloud ได้อีกด้วย iCloud มาพร้อมกับบัญชีอีเมลฟรีและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 5 GB (อ้างอิง : https://support.apple.com/th-th/guide/icloud/mm74e822f6de/icloud)
ตารางเปรียบเทียบพื้นที่เก็บข้อมูลแต่ละยี่ห้อ
| ยี่ห้อ | Google Drive | OneDrive | Dropbox | iCloud |
| พื้นที่จัดเก็บข้อมูล | 15 GB | 5 GB | 2 GB | 5 GB |
สรุป จากข้อมูลที่แนะนำแต่ละยี่ห้อข้างต้นจะเห็นว่าการใช้ Cloud Storage นั้นเป็นบริการหนึ่งที่ควรการใช้มาก เพราะสะดวก ใช้งานง่ายเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต สามารถใช้งานได้ทุกทีทุกเวลาในหลายอุปกรณ์ที่รองรับ แชร์ไฟล์กับผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย และจากตารางข้างบนสำหรับการเลือกใช้บริการผู้ใช้อาจเลือกยี่ห้อที่ให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มากกว่ายี่ห้ออื่น แต่สุดท้ายการเลือกใช้บริการก็มีปัจจัยอื่น อย่างเช่น iCloud ก็เหมาะกับผู้ใช้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ตระกูล Apple หรือ คนที่ชอบฝั่ง Microsoft ก็อาจจะเลือก OneDrive เพื่อตรงตามความต้องการของการใช้งานของแต่ละคน เนื่องจากว่า Cloud Storage เป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถใช้อย่างสะดวก ง่ายได้ และมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ 4 ยี่ห้อที่แนะนำมาข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งในตลาดตอนนี้ ซึ่งมียี่ห้ออื่นนอกจากที่แนะนำมาข้างต้นอีกด้วย
