เรามาตามติดวิเคราะห์กันต่อกับกรณีช้างกระดูกผิดรูปหลังแบกนักท่องเที่ยวมายาวนาน 25 ปี
ช้างเป็นสัตว์บกที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสามารถในการลากจูงของหนักๆได้มากกว่า 1 ตัน แต่ความสามารถในการแบกน้ำหนักนั้นทำได้แค่เพียง 300-400 กิโลกรัมเท่านั้น เนื่องจากลักษณะของสันหลังมีลักษณะเป็นสันขึ้นมา ไม่ได้แบนเพื่อรองรับน้ำหนักโดยตรงแต่อย่างใด ดังนั้นการออกแบบ “แหย่ง” สำหรับบรรทุกคนหรือของ จะถูกออกแบบให้มีรูปทรงดังภาพ เพื่อมิให้ไปกดทับกระดูกสันหลัง ซึ่งช้างอาจจะเจ็บและไม่ยอมให้บรรทุกบนหลังอีกต่อไป นอกจากนี้ควาญช้างยังใช้เปลือกไม้ / ผ้าหนา / กระสอบ เอามารองบนตัวช้างก่อนอีกหลายชั้นเพื่อมิให้ช้างเจ็บและเกิดความกระชับยิ่งขึ้นในการมัดหรือยึดกับตัว ซึ่งหากไม่รองเอาไว้ แหย่งมักจะเลื่อนไหล ไม่สามารถมัดได้
อ้าว..แล้วถ้าทำทุกๆวันมันสามารถทำให้เกิดกระดูกผิดรูปได้หรือไม่?
ปกติแล้วหากเราเอาของหนักมากๆไปกดลงบนกระดูกชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่มีกล้ามเนื้อและผิวหนังปกคลุม สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีรอยกดทับจนอาจจะกลายเป็นเนื้อตายเกิดขึ้นได้ และเมื่อเกิดเนื้อตายเช่นนี้แล้วจะเกิดการอักเสบและเสียหายจนเน่าได้ โดยที่กระดูกยังคงรูปร่างเช่นเดิม
การที่กระดูกจะผิดรูปไปได้ เกิดได้จาก 3 สาเหตุที่มักพบได้บ่อยๆ คือ
พิสูจน์ได้อย่างไร … ทำการตรวจร่างกายให้ละเอียดสิครับ … แล้วเราจะพบความจริงว่าคำกล่าวอ้างนี้ “จริงหรือเท็จ” !!!
จัดทำบทความโดย : วิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์อัครราชกุมารี
Website : https://veterinary.wu.ac.th
222 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 80160