Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors

เหรียญสองด้านของ 'สหกิจศึกษา': เมื่อการปฏิบัติสหกิจศึกษาสร้างทั้งโอกาสและความเครียด

สำหรับนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย การได้ออกไป “ฝึกงาน” หรือทำ “สหกิจศึกษา” ถือเป็นก้าวสำคัญที่น่าตื่นเต้น เป็นประตูสู่โลกแห่งการทำงานจริงที่เต็มไปด้วยโอกาส แต่เคยสงสัยไหมว่า เบื้องหลังประสบการณ์อันล้ำค่านี้ นักศึกษาต้องเผชิญกับอะไรบ้าง?

งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์ได้เจาะลึกถึงผลกระทบของการเรียนรู้เชิงบูรณาการกับการทำงาน (Work-Integrated Learning หรือ WIL) ที่มีต่อ “สุขภาวะ” ของนักศึกษาอย่างรอบด้าน และพบว่ามันเป็นเหมือนเหรียญสองด้าน ที่มีทั้งด้านที่สดใสสวยงามและด้านมืดที่บั่นทอนอย่างคาดไม่ถึง

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจมุมมองของนักศึกษา พร้อมข้อเสนอแนะที่ทุกฝ่าย ทั้งตัวนักศึกษาเอง สถานประกอบการ และมหาวิทยาลัย ควรรับฟัง เพื่อสร้างระบบนิเวศการฝึกงานที่ “ดีต่อใจ” อย่างแท้จริง

“สุขภาวะ” ที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องไม่เจ็บป่วย

ก่อนจะไปต่อ เรามาทำความเข้าใจคำว่า “สุขภาวะ” (Wellbeing) ในมุมมองของนักศึกษากันก่อน มันไม่ใช่แค่การมีร่างกายที่แข็งแรง แต่เป็นสภาวะที่ทุกมิติของชีวิตมีความสมดุลและลงตัว ซึ่งประกอบไปด้วย:

เมื่อมิติใดมิติหนึ่งขาดความสมดุลไป สุขภาวะโดยรวมก็ย่อมสั่นคลอนตามไปด้วย

ด้านสว่างของการฝึกงาน: เมื่อการทำงานจริงช่วยให้ “เติบโต”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการฝึกงานมอบประโยชน์มหาศาลให้กับนักศึกษา จากงานวิจัยพบว่าผลกระทบเชิงบวกที่เด่นชัดที่สุดคือ:

ความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น: การได้ลงมือทำงานจริง แก้ปัญหาเฉพาะหน้า และได้รับมอบหมายงานที่ท้าทาย ช่วยให้นักศึกษามีความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง (Self-efficacy) มากขึ้น

ค้นพบแพสชันและเป้าหมาย: หลายคนค้นพบว่าตัวเองรักในสายงานที่เรียนมาจริงๆ การปฏิบัติสหกิจศึกษาเป็นเหมือนการยืนยันเส้นทางอาชีพในอนาคต ทำให้พวกเขารู้สึกว่าชีวิตมีเป้าหมายและเปี่ยมด้วยพลัง

สร้างเครือข่าย (Connection): การได้รู้จักและสร้างความสัมพันธ์กับพี่ๆ ในที่ทำงาน เป็นการสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพที่สำคัญ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในอนาคต

“การฝึกงานทำให้ฉันมั่นใจขึ้นมาก ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายใจที่จะรับหน้าที่ใหม่ๆ และกล้าที่จะลองประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป” – เสียงจากนักศึกษาที่เข้าร่วมวิจัย

 

ด้านมืดที่ต้องเผชิญ: ความเครียดทางการเงินและเวลาที่หายไป

ในอีกด้านหนึ่งของเหรียญ การฝึกงานก็สร้างผลกระทบเชิงลบที่รุนแรงต่อสุขภาวะของนักศึกษาเช่นกัน โดยเฉพาะ 2 ประเด็นหลักนี้:

  1. ความเครียดทางการเงิน (Financial Stress): นี่คือปัญหาใหญ่ที่สุดที่นักศึกษาส่วนใหญ่ต้องเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การฝึกงานแบบไม่ได้รับค่าจ้าง” ซึ่งพบบ่อยในหลายสาขาวิชา นักศึกษาต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พัก ในขณะที่ไม่สามารถทำงานพิเศษเพื่อหารายได้เสริมได้เหมือนเดิม สิ่งนี้นำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า Placement Poverty” หรือ “ภาวะจนจากการฝึกงาน” ซึ่งบั่นทอนความมั่นคงและสุขภาวะทางใจอย่างมาก
  2. ภาวะหมดไฟและความโดดเดี่ยว (Burnout & Isolation): การฝึกงานเต็มเวลาควบคู่ไปกับการทำโปรเจกต์หรือการบ้านของมหาวิทยาลัย ทำให้ภาระงานของนักศึกษาหนักอึ้ง พวกเขาแทบไม่มีเวลาเหลือให้ตัวเอง ครอบครัว หรือเพื่อนฝูง การพักผ่อนไม่เพียงพอและความรู้สึกเหนื่อยล้าสะสมนำไปสู่ภาวะหมดไฟได้ง่าย นอกจากนี้ การต้องห่างจากเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยยังทำให้บางคนรู้สึกโดดเดี่ยวอีกด้วย

“มันเหนื่อยมากจริงๆ ค่ะ พอทำงานเสร็จกลับมาถึงบ้านก็ไม่มีพลังงานเหลือให้ตัวเองแล้ว มันยากที่จะมีสุขภาวะที่ดีได้ ถ้าคุณไม่ได้ใส่ใจดูแลตัวเองเลย” – เสียงจากนักศึกษาที่เข้าร่วมวิจัย

เสียงจากนักศึกษา: ข้อเสนอแนะถึงทุกฝ่าย

เพื่อสร้างประสบการณ์การฝึกงานที่ดีและสนับสนุนสุขภาวะของนักศึกษาอย่างแท้จริง นี่คือข้อเสนอแนะที่รวบรวมจากเสียงของพวกเขา

ถึงเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน:

  • – ดูแลตัวเองคือที่หนึ่ง: อย่าลืมหาเวลาออกกำลังกาย กินของดีๆ และให้เวลาตัวเองได้พักผ่อน “เติมพลัง” ให้เต็มก่อนเสมอ
  • – อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ: ไม่ว่าจะเป็นปัญหาส่วนตัวหรือเรื่องงาน การมีคนที่ไว้ใจให้พูดคุยด้วยเป็นสิ่งสำคัญมาก
  • – เลือกที่ปฏิบัติสหกิจศึกษาที่ใช่: พยายามเลือกองค์กรที่คุณสนใจจริงๆ เพราะเมื่อคุณรักในสิ่งที่ทำ ความเครียดก็จะลดลงไปเยอะ

ถึงพี่ๆ ที่สถานประกอบการ:

  • – สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น: ต้อนรับนักศึกษาให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม ปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจและให้เกียรติ
  • – เป็นพี่เลี้ยงที่ดี: คอยพูดคุย (Check-in) ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ และให้ฟีดแบคที่เป็นประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ
  • – โปรดพิจารณา “ค่าตอบแทน”: การให้ค่าตอบแทนแก่นักศึกษาฝึกงาน แม้จะไม่มาก แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงคุณค่าในเวลาและพลังงานที่พวกเขาทุ่มเทและช่วยลดภาระทางการเงินได้อย่างมหาศาล

ถึงมหาวิทยาลัย:

  • – เตรียมความพร้อมให้ดีกว่านี้: ควรมีการสอนเรื่องการจัดการความเครียดและสุขภาวะก่อนที่นักศึกษาจะออกไปฝึกงาน
  • – สนับสนุนและเข้าถึงง่าย: ควรมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่นักศึกษาสามารถติดต่อพูดคุยได้อย่างสะดวกใจเมื่อเจอปัญหา มีการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ เช่น การไปเยี่ยมนิเทศที่สถานประกอบการ
  • – สร้างความยืดหยุ่น: พิจารณาโครงสร้างการฝึกงานที่ยืดหยุ่นขึ้น เช่น การฝึกงานแบบไม่เต็มเวลา (Part-time) เพื่อให้นักศึกษาสามารถจัดการชีวิตและภาระอื่นๆ ได้
  • – หาทางช่วยเหลือทางการเงิน: สำรวจแนวทางการให้ทุนหรือการสนับสนุนทางการเงินสำหรับนักศึกษาที่ต้องฝึกงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง

บทสรุป: ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน

การฝึกงานหรือสหกิจศึกษาเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งของการศึกษา แต่เราต้องไม่ลืมว่า “สุขภาวะของนักศึกษา” คือหัวใจของการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ งานวิจัยชิ้นนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการดูแลนักศึกษาไม่ใช่ความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่ายการลงทุนในสุขภาวะของนักศึกษาฝึกงานในวันนี้ ก็คือการลงทุนในอนาคตของตลาดแรงงานที่จะได้บุคลากรที่แข็งแกร่งทั้งความสามารถและสุขภาพจิตที่ดีมาขับเคลื่อนองค์กรและสังคมต่อไป

อ้างอิงจากงานวิจัย: Hay, K., & Fleming, J. (2025). Supporting wellbeing: Perspectives of university work-integrated learning students. International Journal of Work-Integrated Learning, 26(1), 43–59.

แปลโดย
นางสาวอิงจันทร์ วัตรุจีกฤต
ศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ