เมื่อเด็กจบใหม่ตกงานพุ่ง ทักษะ STEM สำคัญอย่างไร?
เมื่อเด็กจบใหม่ตกงานพุ่ง ทักษะ STEM ที่จะได้เรียนในสำนักวิชาการจัดการสำคัญอย่างไร?
📌 สถานการณ์ปัจจุบัน:
ผลักดันให้นักศึกษามีศักยภาพแข่งขันได้ทั้งในประเทศและระดับโลก
💡อนาคตของคุณ เริ่มต้นที่การศึกษาที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน!
สถานการณ์ตลาดแรงงาน:
ตลาดแรงงานต้องการทักษะเฉพาะมากขึ้น โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี
เด็กจบใหม่ยังประสบปัญหาตกงาน เนื่องจากทักษะที่ได้เรียนไม่ตรงกับความต้องการของตลาด
📌 STEM คือคำตอบ!
ทักษะด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) ช่วยเพิ่มความสามารถในการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
16.5% ของตำแหน่งงาน ต้องการทักษะ STEM
📌 บทบาทของสำนักวิชาการจัดการ:
พัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับตลาดแรงงาน เช่น การใช้เทคโนโลยีในงานบริหาร การวิเคราะห์ข้อมูล และการคิดเชิงสร้างสรรค์
- ในปี 2567 อัตราการว่างงานของบัณฑิตจบใหม่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากทักษะที่เรียนมาไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
- ตลาดแรงงานเน้นหาบุคลากรที่มีทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งสามารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในยุคดิจิทัลได้
ความสำคัญของทักษะ STEM: - ทักษะ STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน
- ทักษะนี้ช่วยพัฒนาความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเชิงระบบ และการนำความรู้ไปปรับใช้ในองค์กร
- 16.5% ของตำแหน่งงานทั้งหมดในตลาดต้องการทักษะ STEM
บทบาทของสำนักวิชาการจัดการ: - สำนักวิชาการจัดการพัฒนาหลักสูตรที่เน้นทักษะ STEM ผสานกับการบริหารจัดการ เช่น การใช้เทคโนโลยีในงานธุรกิจ การวิเคราะห์ข้อมูล และการพัฒนานวัตกรรม
- นักศึกษาจะได้รับความรู้ที่ทันสมัย สามารถนำไปปรับใช้กับงานในภาคอุตสาหกรรมและตลาดโลก

อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/67
- ผู้ว่างงานทั้งหมด: 410,000 คน
- ผู้ที่เคยทำงานมาก่อน: 180,000 คน (+2.8%)
- แสดงให้เห็นถึงปัญหาในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มที่เคยมีประสบการณ์แต่ยังขาดทักษะที่ทันสมัย

อัตราผู้ว่างงานเพิ่มผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน
- จำนวน: 230,000 คน (+3.5%)
- แบ่งตามระดับการศึกษา:
- ปริญญาตรี: 150,500 คน (+2.14%)
- มัธยมปลาย: 65,000 คน (+1.0%)
- มัธยมต้น: 67,200 คน (+0.91%)

ความสำคัญของทักษะ STEM
- STEM (วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม, คณิตศาสตร์) เป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาและพัฒนาธุรกิจ
- ตำแหน่งงานที่ต้องการทักษะนี้มีสัดส่วน 16.5% ของตำแหน่งงานทั้งหมด
- ทักษะ STEM ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานและการเติบโตในสายอาชีพ

สัดส่วนกลุ่มอาชีพ STEM ในอุตสาหกรรม S-Curve
- หลักสูตรการตลาดดิจิทัลและการสร้างแบรนด์ กลุ่มอาชีพ STEM 44.8% ไม่ใช่กลุ่มอาชีพ STEM 55.2%
- หลักสูตรศิลปะการประกอบอาหารอย่างมืออาชีพ กลุ่มอาชีพ STEM 49.6% ไม่ใช่กลุ่มอาชีพ STEM 85.1%
- หลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์ กลุ่มอาชีพ STEM 6.7% ไม่ใช่กลุ่มอาชีพ STEM 93.3%
- หลักสูตรการท่องเที่ยวและการโรงแรม กลุ่มอาชีพ STEM 6%ไม่ใช่กลุ่มอาชีพ STEM 94.0%