วิธียืดอายุแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค ทำอย่างไร?

วิธียืดอายุแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค ทำอย่างไร?

อย่างที่เราทราบกันดีแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อม เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องเผชิญ แม้ในปัจจุบันใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งจะสามารถเก็บประจุไฟได้เต็มตั้งแต่ซื้อใช้มาใหม่ๆ ก็ตาม บางเครื่องอาจเสื่อมในระยะเวลาอันรวดเร็วในระยะเวลาอาจไม่ถึง 2 ปีตามอายุการใช้งานทั่วไปด้วยซ้ำ เรามาดูกันว่าสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คของเราเสื่อมเร็วเกิดจากสาเหตุอะไร รวมไปถึงการป้องกันหรือยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้นานยิ่งขึ้น

สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อม มีสาเหตุหลักๆ ดังนี้

1. แบตแตอรี่เสื่อมไปตามอายุการใช้งาน ซึ่งค่าเฉลี่ยอายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ประมาณ 2 ปี โดยหลังจากนั้นแบตเตอรี่จะค่อยๆ เสื่อมและไม่สามารถเก็บแบตเตอรี่ได้

2. การใช้งานโน๊ตบุคในที่ที่มีอากาศร้อน ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้แบตเตอรี่ร้อนเร็วและเสื่อมได้ง่ายขึ้น

3. การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดไปเลยหรือปล่อยให้เครื่องดับ ซึ่งเวลาชาร์จใหม่จะต้องใช้แรงดันไฟฟ้ามากกว่าปกติ ทำให้แบตเตอรี่ร้อนและเสื่อมได้ง่ายขึ้น ดังนั้นควรชาร์จเมื่อแบตเตอรี่เหลือประมาณ 20 %

วิธีรักษาแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค ป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่หมดเร็วหรือเสื่อมเร็ว

1.ไม่ควรเสียบแบตเตอรี่ค้างไว้ตลอดเวลา เมื่อเต็มแล้วถอดออกเพื่อให้แบตเตอรี่คลายตัว และควรชาร์จเมื่อแบตเตอรี่เหลือประมาณ 20 %

2.ถอดอุปกรณ์เสริมที่ไม่จำเป็นออกเมื่อไม่ใช้งาน เช่น สายกล้อง สายไมโครโฟน แฟลสไดรฟ์ ฯลฯ เพราะอุปกรณ์เสริมเหล่านี้จะใช้แบตเตอรี่ในการใช้งาน

3.ปิดการเชื่อมต่อต่างๆ เมื่อไม่ใช้งาน เช่น Wi-Fi Bluetooth การปล่อยฮอตสปอต เพื่อลดการใช้แบตเตอรี่

4.ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือ 0% หรือเครื่องดับไปเลย ตามที่กล่าวข้างต้นถึงสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม ซึ่งเวลาชาร์จใหม่จะต้องใช้แรงดันไฟฟ้ามากกว่าปกติ ทำให้แบตเตอรี่ร้อนและเสื่อมได้ง่ายขึ้น

5.เปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่ (Battery Saver) ซึ่งจะทำให้หน้าจอลดความสว่างลงเองอัตโนมัติ แต่จะช่วยให้ใช้งานโน๊ตบุ๊คได้นานขึ้น

6.ควรวางให้โน๊ตบุ๊คอยู่ในลักษณะที่ระบายร้อนได้ดี ไม่วางราบบนที่นอน หรือบนตัก การวางที่ระบายความร้อนได้ดี เช่น วางบนขาตั้ง หรือใช้งานในห้องที่อุณหภูมิไม่ร้อนจนเกินไป เพื่อไม่ให้ความร้อนสะสมใต้เครื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุให้แบตเตอรี่เสื่อมไว

7.สำหรับโน้ตบุคที่ใช้ฮาร์ดดิสแบบ HDD ซึ่งจะใช้แบตเตอรี่มากกว่าฮาร์ดดิสแบบ SSD ดังนั้นหากโน๊ตบุคของคุณยังใช้ฮาร์ดดิสแบบ HDD ให้เปลี่ยนเป็นแบบ SSD เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานยิ่งขึ้น

8.ใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ได้มาตรฐานหรือเจ้าของผู้ผลิต เพราะการใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานจะส่งผลทำให้แบตเตอรี่เสียหายได้

9.หมั่นตรวจสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เป็นประจำ โดยอาจจะใช้แกรมภายนอก หรือโน๊ตบุ๊คบางยี่ห้อสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้

แม้ว่าแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คจะมีระยะการเสื่อม แต่เราก็สามารถยืดอายุการใช้งานตามวิธีที่ได้กล่าวข้างต้น ซึ่งจะเห็นว่าสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วนั้น ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานเอง หากเราปรับพฤติกรรมการใช้งานและหมั่นบำรุงรักษา เราก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานยิ่งขึ้นและเต็มประสิทธิภาพ

เนื้อหาบางส่วนจากเว็บไซต์ https://www.it24hrs.com/ และ https://www.ofm.co.th/blog