บทความโดย นายสรัญรัฐ มนุญญานนท์ นักวิชาการ ฝ่ายสนับสนุนการเรียนการสอนและบริการ ศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมและการกีฬา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
การออกกำลังกายที่ดีมีคุณค่าและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย ผู้ออกกำลังกายควรเลือกรูปแบบและกิจกรรมการออกกำลังกาย ให้ครอบคลุมองค์รวมของสุขภาพ ซึ่งการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1. การออกกำลังกายเพื่อสร้างเสริมสมรรถภาพความแข็งแรงอดทนของหัวใจและปอด (Cardio Respiratory Endurance) การออกกำลังกายประเภทนี้เป็นการพัฒนาคุณภาพการทำงานของหัวใจและปอดให้แข็งแรงอดทนในการทำหน้าที่สูบฉีดเลือดและนำอากาศเข้าสู่ร่างกาย เพื่อส่งไปหล่อเลี้ยงเซลล์ตามส่วนต่างๆของร่างกายให้เจริญเติบโตแข็งแรงและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า อารมณ์แจ่มใส ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกนั่นเอง เช่น การเดิน การวิ่ง การปั่นจักรยาน การเต้นรำ ลีลาศ ไท้เก๊ก เป็นต้น
2. การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและอดทนของกล้ามเนื้อ (Muscular Strength and Endurance) เป็นการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาโครงสร้างร่างกาย กล้ามเนื้อ และรูปร่างสวดส่งให้แข็งแรงกระชับได้สัดส่วน สวยงาม นำไปสู่สุขภาพความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดี การออกกำลังกายประเภทนี้ต้องใช้น้ำหนักหรือแรงต้านมากระตุ้นหรือกระทำต่อกล้ามเนื้อ เช่น weight training, body weight , ยางยืด เป็นต้น
3.การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความอ่อนตัวและความยืดหยุ่นตัวของกล้ามเนื้อ (Muscular Flexibility and Elasticity) การออกกำลังกายประเภทนี้ช่วยผ่อนคลายอาการปวดเมื่อย เกร็ง ของกล้ามเนื้อและข้อต่อที่ถูกใช้งานในแต่ละอิริยาบถตลอดทั้งวัน รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ ในการเคลื่อนไหวของข้อต่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้ระยะทางมากขึ้นทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย เช่น การบริหารร่างกายโดยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อในท่าต่างๆ (Stretching Exercises)
💪🏻 การออกกำลังกายถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่สำคัญและจำเป็นสำหรับทุกเพศทุกวัย ถ้าร่างกายยังมีลมหายใจและมีการเคลื่อนไหว ทุกคนควรให้ความใส่ใจในการดูแลสร้างเสริมสุขภาพ
