Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors

6 พันธุ์แมวยอดฮิต น่ารัก น่าเลี้ยง

        การจะเลือกแมวสักตัวมาเป็นเพื่อนคู่ใจอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสายพันธุ์แมวบนโลกใบนี้นั้นมีเยอะซะเหลือเกิน ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีทั้งนิสัยและความน่ารักที่แตกต่างกันออกไป การจะเลือกแมวมาเลี้ยงสักตัวเราก็คงต้องมั่นใจว่าน้องนั้นเข้ากับเราได้จริง ๆ ใครที่กำลังมองหาแมวสายพันธุ์ต่าง ๆ มาเลี้ยงเป็นเพื่อน เราได้รวบรวมสายพันธุ์แมวที่น่าเลี้ยงที่สุดมาไว้ให้ที่นี่ถึง 6 สายพันธุ์ด้วยกัน บอกเลยว่าเต็มไปด้วยความน่ารัก น่าฟัด น่าขยำ ถ้าพร้อมสยบเป็นทาสให้กับเจ้าเหมียวเหล่านี้แล้ว มีทั้งระดับความอ้อน ความซน เสียงร้อง เห็นหน้าน้องแล้วใจละลายสุดๆ

1. อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Short Hair)

           เป็นแมวสายพันธุ์อเมริกาที่สืบเชื้อสายมาจากประเทศในแถบยุโรป และแพร่พันธุ์มายังอเมริกา เมื่อสมัยที่ชาวยุโรปเดินทางไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ โดยพวกเขาได้นำแมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ ติดเรือไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้หนูทำลายข้าวของ และได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ในเวลาต่อมา จนกลายเป็นแมวพื้นเมืองขนสั้นของอเมริกาไปในที่สุด

ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์

           รูปร่างมีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวโต มีกล้ามเนื้อแข็งแรง มองเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ ใบหูมีขอบเป็นทรงกลมมน ส่วนหัวมีลักษณะรูปไข่ ดวงตากลมโตเป็นสีเขียวมรกต มีลักษณะสีขน และรูปร่างมากกว่า 80 แบบ

          เป็นแมวที่ช่างสงสัย นิสัยร่าเริง ชอบเล่น มีเสน่ห์ แต่จะฝึกค่อนข้างยาก ดังนั้นหากเป็นไปได้ เจ้าของควรจะคลุกคลีและอยู่กับแมวให้มาก ๆ

การเลี้ยงดูแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์

          แมวพันธุ์อเมริกันมีขนสั้นส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อราและเป็นหวัดง่าย ถ้าหากเจ้าของให้การดูแลไม่ดีก็จะเลี้ยงลำบาก ฉะนั้นเจ้าของควรพาแมวไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนเป็นประจำ ส่วนปัญหาเรื่องขนร่วงมีน้อยมาก โดยจะร่วงเฉพาะในช่วงเวลาผลัดขนปีละ 2 ครั้งเท่านั้น

2. บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)

          เป็นแมวท้องถิ่นสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดบนเกาะอังกฤษ ซึ่งเล่ากันว่าบรรพบุรุษของพวกมันมาจากแมวที่ชาวโรมันเอามาเลี้ยงเมื่อ 2,000 ปีก่อน และเป็นแมวที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศต้นกำเนิดและประเทศอื่น ๆ แถบยุโรปจนถึงยุคปัจจุบัน เนื่องจากมันเป็นแมวที่มีความเฉลียวฉลาด จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ฝึกสัตว์ เพื่อใช้ในการโฆษณาทางโทรทัศน์หรือเข้าฉากในภาพยนตร์ของฮอลลีวูด บริติช ช็อตแฮร์เป็นสายพันธุ์แมวที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยส่งเสียงร้อง สามารถเลี้ยงในคอนโดได้ แต่ที่อยากนำเสนอเป็นพิเศษคือน้องเป็นพันธุ์แมวที่น่ารักและขี้อ้อนมาก ๆ แถมใบหน้ายังกลมใหญ่ดูเป็นไอ้ต้าวอ้วน แต่จริง ๆ แล้วสายพันธุ์ของน้องเป็นสายพันธุ์แมวที่แข็งแรง มีกล้ามเนื้อเยอะเฉย ๆ โดยส่วนใหญ่สีที่คนนิยมเลี้ยงจะเป็นสีเทาหรือสีสวาด แต่คนในวงการแมวจะเรียกว่าสีบลู 

ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวบริติช ชอร์ตแฮร์

          เป็นแมวที่มีลักษณะกะทัดรัด สมดุลดี แข็งแรง หน้าอกเต็มและกว้าง ขาสั้น อุ้งเท้ากลม หางหนาและกลม หัวกลมรับกับใบหูขนาดเล็ก คอสั้น แก้มยุ้ย คางหนา ดวงตากลมโต จมูกค่อนข้างสั้น ขนหนาและสั้น มีอายุเฉลี่ยประมาณ 15-20 ปี ส่วนอุปนิสัยของแมวพันธุ์นี้ค่อนข้างนิ่งสงบกว่าแมวพันธุ์อื่น ๆ เดาทางได้ง่าย เนื่องเป็นมิตรกับผู้คนรวมถึงสัตว์ชนิดอื่น ๆ ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่ค่อยพบเห็นแมวสายพันธุ์นี้ส่งเสียงรบกวน แสดงอาการก้าวร้าว หรือทำลายสิ่งของให้เห็น

การเลี้ยงดูแมวบริติช ชอร์ตแฮร์

             แมวบริติช ชอร์ตแฮร์เป็นแมวที่ดูแลง่าย ควรเลี้ยงในบ้าน เป็นแมวที่มีพัฒนาการการเจริญเติบโตช้าอยู่สักหน่อย แต่ความสมบูรณ์และความสวยงามของมันจะอยู่คู่กับแมวไปตลอดเกือบชั่วอายุขัยเลยทีเดียว

3. สก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold)

          แมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ ตัวแรกที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1961 ที่ประเทศสก็อตแลนด์ แต่ในตอนนั้นยังไม่มีใครทราบชื่อสายพันธุ์ที่แท้จริง เนื่องจากลักษณะมีใบหูพับ และยังมีใบหน้าที่คล้ายกับนกฮูก ซึ่งหลังจากที่ให้กำเนิดลูกแมวน้อยหูพับ 2 ตัว William Ross ชายเลี้ยงแกะ ซึ่งเป็นผู้ค้นพบคนแรกก็ได้นำลูกแมวตัวเมียไปเลี้ยง หลังจากที่ลูกแมวตัวนั้นโตขึ้น จึงนำไปผสมพันธุ์กับ บริติช ชอร์ตแฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ และได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องที่รับรองโดย The Governing Council of the Cat Fancy ของประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1966

  ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวสก็อตติช โฟลด์

          แมวสายพันธุ์นี้แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ แบบขนสั้นกับแบบขนยาว โดยทั้ง 2 แบบจะมีลักษณะตัวกลม หัวกลม มีช่วงคอสั้น ดวงตากลมใหญ่ และมีหูตั้งตรงขนาดกลาง ไปจนถึงหูพับขนาดเล็กที่มีมุมพับกว้าง ปลายหูส่วนใหญ่จะกลม หูของลูกแมวจะเริ่มพับในช่วง 2-3  อาทิตย์แรก จมูกสันโค้งกว้างรับกับดวงตา ซึ่งบางตัวมีปากโค้งได้รูปรับกับคางพอดี จึงเป็นที่มาของสมญานามว่า Smiling Cat หรือ แมวยิ้ม นั่นเอง

          แมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ เป็นแมวที่ไม่ค่อยส่งเสียง และชอบทำกิจกรรมในระดับปานกลาง พวกมันชอบที่จะเล่น เฉพาะเวลาที่มีเจ้าของมาร่วมเล่นด้วย บางตัวอาจไม่ชอบนอนบนตัก โดยเลือกที่จะอยู่ใกล้ ๆ กับเจ้าของแทน

การเลี้ยงดูแมวสก็อตติช โฟลด์

          การดูแลแมวสก็อตติช โฟลด์ ค่อนข้างง่าย แค่หมั่นแปรงขน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์สำหรับแบบขนสั้น แต่อาจจะต้องเพิ่มการดูแลมากขึ้นหากเลือกที่จะเลี้ยงแบบขนยาว โดยเฉพาะบริเวณใบหูของแมว ควรหมั่นทำความสะอาดบ่อยครั้ง พอ ๆ กับการแปรงขน และโดยทั่วไป แมวพันธุ์นี้ส่วนใหญ่มีร่างกายที่ค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว จึงไม่มีเรื่องอะไรที่น่าเป็นห่วงนัก

          *แมวพันธุ์นี้ไม่ควรนำแมวที่มีหูพับมาผสมกับแมวหูพับเหมือนกัน เพราะลักษณะของหูพับเป็นยีนเด่นที่กลายพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์ไปแล้วลูกแมวที่เกิดมามีโอกาสที่จะไม่สมบูรณ์ ควรผสมกับแมวหูตั้งเท่านั้น เช่น พันธุ์บริทิช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) หรือผสมกับพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair) ก็ได้

4. เปอร์เซีย (Persian)

          ราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลาง ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกีกับอิหร่านในปัจจุบัน แมวเปอร์เซียถือเป็นแมวต่างประเทศสายพันธุ์แรกที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย สิ่งที่ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักแมวก็เพราะว่า นอกจากจะมีหน้าตาน่าเอ็นดูแล้ว ขนปุกปุยของแมวเปอร์เซียยังมีสีสันที่หลากหลาย และนิสัยส่วนตัวก็น่ารักด้วย เรียกได้ว่าเป็นสายพันธุ์แมวที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยมากที่สุด เป็นแมวที่ขนสลวยสวยเก๋ มีสง่าราศี ดูเป็นแมวลูกคุณ โลกส่วนตัวสูง นิ่งเงียบเรียบร้อย รักสันโดษมาก ๆ และน้องยังมีไหวพริบดีอีกด้วย ตะปบเก่งเชียวล่ะ

ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเปอร์เซีย

          เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก กล่าวคือ สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา นอกจากหน้าตาที่น่ารักแล้ว ยังเป็นแมวที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีความร่าเริงซุกซน ปีนป่ายไปตามจุดต่าง ๆ เพื่อหาของมากัดเล่น ช่างประจบประแจง และเป็นแมวที่มีไหวพริบมากทีเดียว

การเลี้ยงดูแมวเปอร์เซีย

          เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้แล้ว จงพึงระลึกไว้เสมอว่า การดูแลขนของแมวเปอร์เซียเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ผู้เลี้ยงต้องหมั่นทำความสะอาด โดยการแปรงและสางขนแมวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันการเกิดขนพันกัน ซึ่งอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค รวมทั้งพยาธิต่าง ๆ ที่จะเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบและเป็นที่อยู่ของเห็บหมัดอีกด้วย

          ส่วนในเรื่องของอาหารการกินนั้น ควรเลือกอาหารที่ช่วยให้ทางเดินอาหารของแมวไม่อุดตัน เนื่องจากแมวเปอร์เซียจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเลียทำความสะอาดขน อันเป็นสาเหตุในการกินหรือกลืนเส้นขนเข้าไปเป็นจำนวนมาก หากเส้นขนไปรวมตัวกันในช่องท้อง จะทำให้แมวเปอร์เซียมีอาการสำรอกหรือเกิดปัญหาของระบบย่อยอาหารได้

          *แมวเปอร์เซียประมาณ 36 – 49 % มักจะเป็นโรคถุงน้ำที่ไต โดยจะแสดงอาการตั้งแต่ช่วงอายุ 3 – 10 ปี พวกเขาจะมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด อาเจียน เซื่องซึม และกระหายน้ำมากจนผิดสังเกต หากมีอาการดังกล่าว ควรพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว

5. แมววิเชียรมาศ (Siamese)

          แมวไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีในชื่อ Siamese Cat หรือ แมวสยาม หนึ่งในต้นตระกูลของแมวไทยที่ถูกนำไปปรับปรุงจนเกิดแมวไทยอีกหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งตามตำนานสมุดข่อยได้กล่าวไว้ว่า หากใครได้เลี้ยงแมววิเชียรมาศ จะได้เป็นขุนนาง เพราะถือว่าแมววิเชียรมาศเป็นแมวลาภ อีกทั้งในอดีตยังเป็นแมวที่เลี้ยงกันในวังเป็นส่วนใหญ่ด้วย

ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมววิเชียรมาศ
          เป็นแมวที่มีแต้มสีน้ำตาลเข้ม 9 จุดอยู่บนตัว ได้แก่ ที่ปลายเท้าทั้งสี่ ปลายหูทั้งสอง ปลายหาง บนจมูก และที่อวัยวะเพศ ดังนั้นจึงถูกคนเข้าใจผิดบ่อย ๆ ว่า เป็นแมวเก้าแต้ม แต่ที่จริงแล้ว แมวเก้าแต้มเป็นชื่อของแมวไทยอีกชนิดหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ทั้งนี้ ไม่ว่าจะนำแมววิเชียรมาศไปผสมกับแมวพันธุ์อะไรก็ตาม ก็จะได้สีแต้มตามแบบ แต่แตกต่างกันในเรื่องของรูปร่างและอุปนิสัย อีกทั้งเมื่ออายุมากขึ้น สีแต้มก็จะเข้มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้อาจจะมีสีแต้มที่แปลกแยกออกไป เช่น แต้มสีเทา สีแดง และสีกลีบบัว
          ส่วนอุปนิสัยของแมววิเชียรมาศก็คล้ายคลึงกับแมวไทยทั่วไป คือ มีความฉลาด คล่องแคล่ว ปราดเปรียวเหมือนกับรูปร่าง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่ก็สุภาพเรียบร้อย แม้ว่าภายนอกของแมววิเชียรมาศจะดูรักสันโดษ แต่ความจริงแล้วกลับไม่ชอบอยู่ตามลำพัง ดังนั้นมันจึงเป็นแมวขี้อ้อน ประจบประแจงเก่ง

การเลี้ยงดูแมววิเชียรมาศ
          ตอนกลางวันควรให้แมวอยู่อย่างอิสระในบ้านหรือนอกบ้านก็ได้ ตอนกลางคืนควรขังรวมกันไว้ในกรง กรงแมวต้องมีขนาดใหญ่ การเลี้ยงแมวในบ้าน แมวจะชอบขับถ่ายในที่ที่มีกลิ่นเหม็นหรือเป็นจุดอับ หากต้องการให้แมวขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง ควรเตรียมกระบะทรายไว้ในบ้านด้วย แต่ที่ต้องระวังคือแมวตัวผู้ที่โตแล้ว มักจะขับถ่ายไม่เลือกที่

6. แมวขาวมณี (Khao Manee)

          สำหรับแมวขาวมณีไม่มีหลักฐานยืนยันที่มาอย่างชัดเจน รู้เพียงว่า เริ่มพบเห็นมากในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยมีข้อสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นแมวที่ติดมากับเรือสำเภาของพ่อค้าจีน ที่เลี้ยงไว้จับหนูบนเรือ แต่เนื่องจากสีขาวเป็นสีที่ดูสะอาดและเป็นสีมงคลสำหรับคนไทย ดังนั้นแมวขาวมณีจึงกลายเป็นแมวบ้านนับจากนั้นเป็นต้นมา และที่สำคัญแมวพันธุ์นี้ยังเป็นแมวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดปรานเป็นพิเศษด้วย

  ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวขาวมณี
          เป็นแมวที่มีขนสีขาวปลอดทั่วทั้งตัวแล้ว นัยน์ตาทั้ง 2 ข้างของแมวขาวมณียังแตกต่างไปจากแมวไทยพันธุ์อื่น โดยมีทั้งนัยน์ตาสีฟ้า สีเหลืองอำพัน และตา 2 สี ลักษณะมาตรฐานของแมวขาวมณี หัวจะต้องกลมใหญ่คล้ายรูปหัวใจ จมูกสั้น หูตั้งใหญ่ โคนหางใหญ่ แต่มีปลายแหลมชี้ตรง และต้องเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว ส่วนเสน่ห์ของแมวขาวมณีนั้น นอกจากขนสีขาวเนียนสนิท มันยังเป็นแมวที่ช่างประจบประแจง ขี้อ้อน ชอบเข้ามาคลอเคลีย และจะคอยสังเกตเจ้าของตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม

การเลี้ยงดูแมวขาวมณี   
          ส่วนมากมักจะนิยมเลี้ยงแมวขาวมณีแบบเป็นคู่ เพื่อให้พวกมันพลัดกันเลียขนเพื่อทำความสะอาด แมวพันธุ์นี้เป็นแมวเชื่อง และเชื่อฟังคำสั่งเจ้าของ จึงเหมาะกับการเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาได้ดีเลยทีเดียว

          หวังว่าพันธุ์แมวแสนน่ารัก น่าเลี้ยงเหล่านี้ จะเป็นตัวเลือกประกอบการตัดสินใจของทาสแมวทุกคนในการเลือกเจ้านายตัวแสบมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อน้องหรือรับเลี้ยง อยากให้เพื่อนๆ ตรวจสอบความพร้อมของตัวเอง ว่าสามารถเลี้ยงดูน้องๆ ได้อย่างดี มีเวลาและความรักให้น้อง เพราะไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ต่างก็ต้องการความใส่ใจ และที่สำคัญ ไม่ว่าจะเลี้ยงแมวพันธุ์ไหน อาหารการกินเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะคอยบำรุงสุขภาพให้เจ้านายของเราแข็งแรง มีรูปร่างและขนที่สวยงาม แฮปปี้ทั้งทาสแฮปปี้ทั้งเจ้านาย

ผู้เขียน: นางสาวเบลล์ ชาโนเพ็ญศิริ
เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป
หน่วยตรวจสอบภายใน

Facebook Comments Box