เพลงร้องเรือ สัมผัสรักในสายเลือด

เรียบเรียงโดย นางสาวเพ็ญนภา วัยเวก ศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมและการกีฬา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ให้ความสำคัญกับการบันทึกและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น โดยเฉพาะศิลปะและภูมิปัญญาประจำท้องถิ่น ภายใต้วิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยที่ว่า  “เป็นองค์การธรรมรัฐ เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นหลักในถิ่น เป็นเลิศสู่สากล” การอนุรักษ์ ส่งเสริม และสืบสานภูมิปัญญาประจำท้องถิ่นโดยเฉพาะภูมิปัญญาที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนใต้ อย่างเพลงร้องเรือเด็กภาคใต้ หรือที่รู้จักกันในชื่อเพลงกล่อมเด็กเป็นวรรณกรรม มุขปาฐะ (วรรณกรรมที่ถ่ายทอดด้วยปาก มิได้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร) มีวิวัฒนาการจนกลายเป็นวรรณกรรม เพลงกล่อมเด็กเป็นการถ่ายทอดความคิด ความรู้ เหตุการณ์ คำสอนจากรุ่นสู่รุ่น นอกจากนี้เพลงร้องเรือยังสอดแทรกปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมยุคนั้น ๆ รวมถึงมุขและอารมณ์ขันที่ได้รับความนิยมหรือใช้สื่อสารในยุคนั้น เพลงร้องเรือจึงเป็นเครื่องมือที่แสดงให้เห็นถึงระบบของสังคมของคนในสังคมใต้ในแต่ละยุคสมัย ฝ่ายทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม (อาศรมวัฒนธรรมวลัยลักษณ์)  ศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมและการกีฬา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการบันทึกและอนุรักษณ์มรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น ร่วมกับ จังหวัดนครศรีธรรมราช และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ในการจัดประกวดเพลงร้องเรือเด็กภาคใต้รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในช่วงงานประเพณีบุญสารทเดือนสิบจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประจำต่อเนื่องทุกปี

โดยล่าสุดในปี 2565   มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมกับ จังหวัดนครศรีธรรมราช และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดประกวดเพลงร้องเรือเด็กภาคใต้รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งที่ 5   แบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภทคือ ประเภทเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี และประเภทอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป อายุ 19 ปีขึ้นไป โดยจัดขึ้นในวันอังคารที่ 27 กันยายน 2565 ณ ลานวัฒนธรรม สนามหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช