น้ำตาลในผลไม้ ความหวานที่ถูกมองข้าม

น้ำตาลในผลไม้หลายๆ คนเชื่อว่าเป็นน้ำตาลที่ดีไม่ส่งผลเป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่รู้มั้ยว่า คือความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เผยแพร่รายงานการศึกษาวิจัยโครงการณรงค์เพื่อเด็กไทยไม่กินหวาน เรื่อง การศึกษาวิจัย รวบรวมและจัดการองค์ความรู้โครงการปริมาณน้ำตาลในผลไม้ไทย” โดย พิมพร วัชรางค์กุลและคณะ  ได้กล่าวไว้ว่าน้ำตาลที่พบในผลไม้ให้คุณประโยชน์แตกต่างกัน

น้ำตาลที่พบในผลไม้มี 3 ชนิด คือ ฟรุกโทส กลูโคส และซูโครส แต่ละชนิดให้คุณประโยชน์แตกต่างกัน

ฟรุกโทส คือ น้ำตาลที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้โดยไม่ต้องใช้ฮอร์โมนอินซูลินช่วย ดังนั้น ผู้ที่เสี่ยงหรือป่วยด้วยโรคเบาหวานจึงสามารถบริโภคน้ำตาลชนิดนี้ได้ ในปริมาณที่พอเหมาะโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง

กลูโคสและซูโครส คือ น้ำตาลที่ต้องใช้ฮอร์โมนอินซูลินในการดูดซึม จึงเป็นน้ำตาลที่ผู้เสี่ยงหรือป่วยด้วยโรคเบาหวานต้องหลีกเลี่ยง

หวานน้อยไม่ได้หมายความว่าน้ำตาลจะน้อย

ผลไม้บางประเภท แม้รสหวานน้อยแต่กลับมีส่วนประกอบของน้ำตาลกลูโคส และ ซูโครส ในสัดส่วนที่สูง เช่น แก้วมังกร กล้วยหอม กล้วยเล็บมือนาง ข้าวโพดเหลืองต้ม สละ ระกำ ลูกท้อ สับปะรดภูแล

ผลไม้อบแห้ง กินเพลินๆ เกินห้ามใจ

แม้ว่าผลไม้บางชนิดไม่ผ่านการปรุงแต่งก็ควรบริโภคอย่างพอดี เพราะการอบแห้งคือกระบวนการที่ทำให้น้ำระเหยออกไป น้ำหนักของผลไม้จึงเบากว่าแบบสดๆ การบริโภคก็จะมีปริมาณมากขึ้นในขณะที่ปริมาณน้ำตาลมีเท่ากัน  เช่น ลูกเกด ลูกพลับ พุทราจีนแห้ง อินทผลัม

ผลไม้สดดีที่สุด  แน่นอนว่าดีกว่าผลไม้แปรรูป เช่น ผลไม้กวน ผลไม้แช่อิ่ม รวมถึงน้ำผลไม้สำเร็จรูปด้วยเพราะวิตามินในผลไม้จะสลายไปตามอายุและการได้รับความร้อน รวมถึงการปรุงรสเติมน้ำตาลให้ชวนอร่อยด้วย

1. อะโวคาโด  
   มีสรรพคุณโดดเด่นช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดดีมาก เพราะมีไขมันไม่อิ่มตัวในปริมาณสูง 
   ปริมาณที่สามารถบริโภคใน 1 วัน  คือ ครึ่งลูก
2. แอปเปิ้ลเขียว       
   มีระดับน้ำตาลพอเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานแล้วยังอุดมด้วยวิตามินซีด้วย
   ปริมาณที่สามารถบริโภคใน 1 วัน  คือ ไม่เกิน 4 ลูก
3. แก้วมังกร 
   ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในร่างกาย จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างดี และยังอุดมด้วยเส้นใยช่วยในการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก จึงสามารถลดน้ำหนักไปในตัวด้วย
   ปริมาณที่สามารถบริโภคใน 1 วัน  คือ ไม่เกิน 1 ลูก
4. ฝรั่ง  
   ช่วยเพิ่มสมดุลของฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลภายในร่างกาย นอกจากเป็นผลไม้ยังเป็นยารักษาเบาหวานอีกด้วย  
   ปริมาณที่สามารถบริโภคใน 1 วัน  คือ ไม่เกิน 1 ลูก
5. ชมพู่ 
   ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ช่วยลดการอุดตันของไขมันในร่างกาย แล้วยังอุดมด้วยวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตา
   ปริมาณที่สามารถบริโภคใน 1 วัน  คือ ไม่เกิน 1 ลูก

ความหวานจากผลไม้ จงอย่ามองข้ามบริโภคแต่พอดีก็จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย